หนังดีติดดาว***

หนังดีติดดาว***

           “มงคลซีนีม่า” มือไวคว้าผลงานของพระเอกสุดฮอต “อีเจฮุน” ที่แฟน ๆ จดจำจากซีรีส์ “Taxi Driver” (2021-2023) คราวนี้สลัดภาพมาเป็นทหารเกาหลีเหนือหนีตายเพราะทนความเหี้ยมโหดทารุณกรรมชาติเดียวกันไม่ไหว โดยมี คูคโยฮวาน เป็นผู้ล่า! จัดฉายรอบพิเศษ เมเจอร์ รัชโยธิน

           ตอนเห็นทีเซอร์อีเจฮุนกับคูคโยฮวานก็อยากดูแล้ว เพราะชื่นชอบนักแสดงสองคนนี้ พอเปิดเรื่องก็ตื่นเต้น ไม่ยืดเยื้อ พระเอกใช้การลาดตระเวนเตรียมการหนีเป็นอย่างดี แต่โดนดินฟ้าอากาศมาเป็นตัวขัดขวางแต่ก็ไม่ใหญ่เท่า ‘คน’ หรอก แล้วยิ่งเป็นคนมีอำนาจที่ช่วยให้เขารอดจากความตายซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่พระเอกเรียกว่า ‘พี่เปียโน’ เป็นผู้ล่าซะเอง นอกจากใส่ความตื่นเต้น ไหวพริบของพระเอกเข้าไปแล้ว อย่างว่าคนต้องการหนีก็พร้อมจะตาย คือกูขอไปตายเอาดาบหน้าแบบนั้น พระเอกก็วิ่งสุดชีวิต ฉากวิ่งเพื่อไปให้ถึงฝั่งเกาหลีใต้นี่ไม่รู้พระเอกวิ่งจริงหรือใช้สแตนอินเพราะภาพไม่คัตเลย แต่จากเราเป็นคอเกาหลีสังเกตพระเอกทุกคนต้องไปฟิตวิ่งกันจริงจังไม่งั้นไม่สมจริงการหนีเอาชีวิตรอด ในเรื่องมี 3 ตัวเอกที่เล่นส่งบทกันดี ยิ่งคูคโยฮวานตอนต้องล่าพระเอกจากช่วยชีวิตให้รอดก็ดุดัน แววตาหรือความเหี้ยมโหดจากตัวเขาแผ่รัศมีน่ากลัว แต่เขาก็น่าสงสารเพราะก็เก็บกดด้วยมีปมเพราะเป็นหนุ่มวายจ้า ซึ่งหนังก็ไม่สื่อแค่คนดูเข้าใจพอ เดี๋ยวนี้หนังมักสอดแทรกแนวนี้เรียกกระแสได้เพราะสาววายเยอะ วกมาที่เนื้อหาต่อก็ลุ้นทุกฉากตอนพระเอกหนี มีดราม่าน้ำตาซึมรุ่นน้องที่ขอไปด้วยแต่ต้องจบชีวิตเสียก่อน น่าสงสาร เลยลุ้นพระเอกวิ่งหนีคนเดียว ยิ่งลุ้นลืมหายใจขนาดคนข้าง ๆ ที่ลุ้นเหมือนกันเปรยว่าจะรอดไหม? คือฉากหนีกระสุนมาได้แต่ดันมาตกบ่อทรายดูดตายหรือวะ? ถ้าเป็นแบบนั้นผู้กำกับใจร้ายเกิน แต่ดูสนุก พระเอกหนีสุดชีวิต มอมแมมแต่ เท่ พาลุ้นตั้งแต่ต้นเรื่องถึงจบ ซึ่งอีเจฮุนและคูคโยฮวานสะกดคนดูอยู่หมัดจริง

ติดเต็ม *****

000

           เกล็น โพเวลล์ มาพร้อมภาพยนตร์แนวภัยพิบัติธรรมชาติที่ทำอะดรีนาลีนพลุ่งพล่านจนต้องเกาะขอบเบาะไว้ให้แน่น ๆ กับเรื่องราวที่จะพาคุณไปสัมผัสกับพลังจากธรรมชาติสุดมหัศจรรย์และเกิดทำลายล้างอย่างยิ่งใหญ่ชนิดหนึ่งของ “Twisters” ซึ่งอิงจากภาพยนตร์เรื่องดังปี 1996 เรื่อง Twister งานนี้กำกับฯ โดย ลี ไอแซค ชุง ที่ทั้งเขียนบทฯ และกำกับฯ จัดฉายรอบที่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์

           เป็นหนังให้ภาพความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติผ่านพายุทอร์นาโดได้อย่างสมจริงและเหนือจริงไปพร้อมกัน ตัวละครมีปมในใจที่เป็นทั้งอุปสรรคและแรงผลักดันในการลุกขึ้นมาสู้กับธรรมชาติ ก็เลยกลายเป็นหนังที่ผสมความเป็นดราม่าให้เข้ากับหายนะจากภัยธรรมชาติที่ดูได้เพลิน ๆ หนังแตะประเด็นเรื่องระบบทุนนิยมที่ฉกฉวยโอกาสจากความเดือดร้อนของผู้คนมาแสวงหาผลประโยชน์ แต่ประเด็นนี้ถูกทิ้งและหายไปเฉย ๆ แต่แนวทางที่คาดเดาได้ด้วยความจำเจของสิ่งที่ตัวละครต้องต่อกรกับธรรมชาติก็เลยลดทอนความน่าสนใจของหนังลงนิดหน่อย  ทว่าโดยรวมแล้วก็ยังเป็นหนังหายนะที่ขายความวินาศสันตะโรได้อย่างสะใจโดยผสมดราม่าที่มาจากปมในใจของตัวละครต้องก้าวข้ามและเอาชนะให้ได้ ซึ่งถือว่าเป็นหนังดูสนุก แต่ไม่ได้ประทับใจเท่าไรนัก

ติดให้ ***

000

            ล่าสุด “ไป่ ทาคน” ซูเปอร์สตาร์โด่งดังของพม่าโดดมารับงานแสดงภาพยนตร์เรื่อง “กันเกาง์ เจ้าเพื่อนยาก (KAN KAUNG)” เป็นเรื่องราวความผูกพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์ที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจจนต้องร้องไห้ โดยไป่ยอมโกนผม เพื่อให้สมจริงในการรับบทเป็นพระ ด้วยสปิริตความเป็นนักแสดง ได้จัดรอบสื่อมวลชนพร้อมมิตแอนด์กรี๊ดกับแฟนคลับที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน 

           ส่วนตัวรักน้องหมาอยู่แล้ว แล้วชื่นชอบ ไป่ ทาคน ที่สู้ชีวิตและไม่ชอบเรื่องไม่ยุติธรรม พอมีหนังของเขาที่ทาง ไฟว์สตาร์นำเข้ามาฉายให้คนไทยและคนเพื่อนบ้านที่มาทำงานในบ้านเราได้ดูก็อยากดูมาก บอกพีอาร์แน็ตไว้ล่วงหน้าและพีอาร์ยังบอกไป่มาเซอร์ไพรส์ตอนหนังจบด้วย หนังเดินเรื่องได้ไว เข้าใจและกระชับ ได้เห็นบรรยากาศบ้านเขา เห็นวัด ซึ่งตัวเจ้าอาวาสก็ใจดีรวมถึงพระรูปอื่น เสียงสวดมนต์ฟังแล้วขลัง ฉากพ่อพระเอกโดนสัตว์ฆ่าแสดงให้เห็นถึงกรรมของนายพราน แต่พูดยากมันเป็นอาชีพที่เขาเลี้ยงดูลูกเมียให้อยู่ดีกินอิ่ม เมื่อขาดเสาหลักแม่และลูกก็ต้องพรากจากกัน เพราะพระเอกเลือกบวชตลอดชีวิตเหมือนอุทิศบุญกุศลให้บิดาที่เป็นนายพราน นักแสดงเด็กเล่นดี ฉากประทับใจเรา เป็นฉากแม่ก้มกราบพระลูกเพราะทั้งสองไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก สำหรับไป่ ทาคน และตัวละครอื่นส่งอารมณ์กันดี มีมุกตลกที่เราเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ไม่ติดขัดอะไร แต่ที่ขโมยซีนทุกฉากเห็นจะเป็นน้องลักกี้ที่เป็น กันเกาง์ ความน่ารักของน้องแหละ หนังสื่อถึงความรัก ความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ได้น่ารัก น่าสงสารจนน้ำตาไหลตอนไหนไม่รู้ แต่คนข้าง ๆ สะอื้นไม่เกรงใจกันเลย ทว่าเราน้ำตาไหลหนักฉากพระสันตะยอมทิ้งกันเกาง์ ฉากนี้ซึ้งมาก อินมากจริง ๆ แม้บางซีนไม่ค่อยเนียนตาแต่น้องหมาก็ทำให้อารมณ์คล้อยตามได้ อีกทั้งความหล่อของไป่ ทาคนแม้ไม่มีผมก็ตรึงคนดูอยู่ ส่วนฉากต้องคลอเคลียเล่นกับกันเกาง์ก็ทำให้เชื่อว่าพวกเขาสนิทกันจริง ๆ นะ ดูจบได้ธรรมะสอนใจเรื่องกฎแห่งกรรมฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือได้เห็นความสมานสามัคคีรักใคร่กลมเกลียวของชาวบ้าน ได้เห็นทุกเชื้อชาติมักทำบุญใส่บาตร ได้เห็นความน่ารัก ใสซื่อทั้งพระสันตะและกันเกาง์เวลาอยู่ด้วยกัน มีครบทุกอารมณ์เพียงแต่ซีจีบางฉากไม่ค่อนเนียนตาบ้าง ทว่าธรรมชาติบ้านเขาก็งดงาม สบายตา แต่ฉากสำคัญ…ในมุมมองเรา เราคิดว่าการมีน้องหมาอยู่ข้าง ๆ อาจทำให้ชีวิตมีความสุขสู้กับโรคภัยได้ แต่ทางฝั่งธรรมอาจไม่คิดเช่นนั้น เพราะพระสันตะเลือกละทิ้งกันเกาง์

ติดให้  ****

000

            สำหรับภาพยนตร์อวกาศสัญชาติไทยเรื่องแรก “ยูเรนัส2324”นำโดย 2 นักแสดง อย่าง ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ และ เบคกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง ผลงานของผู้กำกับ เจมส์-ธนดล นวลสุทธิ์ ได้เปิดรอบกาลาพรีเมียร์ ณ พารากอน ซีนีเพล็ก

             โดยหนังทำออกมาได้เกินคาดหมาย เนื้อเรื่องค่อนข้างซับซ้อน แบ่งเป็นหลาย ๆ ช่วงจริง ๆ บทภาพยนตร์เยี่ยม เรียบเรียงเรื่องราวให้ได้ดูหลากหลายอรรถรส มาที่ CG แสงสี ในแต่ช่วงเวลาก็ทำออกมาได้ดูมีเอกลักษณ์ดี งานออกมาละเอียดสมจริง แต่สำหรับฉากในบรรยากาศของอวกาศนั้นที่เป็นหัวใจของเรื่องยังดูธรรมดาไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้แย่ เพียงแค่ยังขาดมิติของห้วงอวกาศที่ควรดูลึกสมจริงมากกว่านี้ เพราะมันเป็นจุดขายโฆษณาหน้าหนังมาตั้งแต่เริ่มแล้ว แต่กลับไม่เด่นเท่าที่ควร มาที่นักแสดงนำหญิงทั้ง 2 คน เริ่มที่ ฟรีนเล่นบททั่วไปได้ดี แต่ในฉากที่ต้องรับบทนักบินอวกาศดูอ่อนเบาไป ดูไม่ทะมัดทะแมงเท่าที่ควร แต่พอถึงฉากบู๊กลับทำได้เนียนตากว่า น่าจะให้ชื่อนักแสดงบู๊หญิงอีกคนก็ดีนะ ฟรีนจึงมีทั้งจุดที่เล่นได้ดีและเล่นได้แข็ง แต่เบคกี้ เรียกว่าเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกฉากทุกการแสดง แม้แต่สีหน้าแววตา ความรู้สึกถ่ายทอดออกมาได้แบบเต็มที่ เหมาะสมกับระดับอารมณ์ตัวละครในขณะนั้น  ส่วนเนื้อเรื่อง บทภาพยนตร์ ทำออกมาได้ดีมากกว่าที่คาดไว้ ดูมีมิติเรื่องราวทับซ้อนกันดี มุมกล้องที่ถ่ายก็เลือกมุมได้ดี จะขาดก็แค่มิติอวกาศเท่านั้นที่ยังดูไม่ลึกมากพอ มีฉากเซอร์วิสแบบหญิงรักหญิงบ่อยมากให้ได้ฟินเรื่อย ๆ คือเมื่อถึงฉากนั้นยิ่งดูยิ่งฟิน แฟนคลับของทั้งคู่คงอมยิ้มเคลิ้ม ถือว่าจักรวาลชื่อ ‘ยูเรนัส2324’ ประสบความสำเร็จ

ติดให้ ****

000

           เตรียมหนีตายไปกับ “Wake Up คืนฆ่า ยามคลั่ง” ภาพยนตร์ไล่เชือดที่จะทำให้คอหนังต้องสะใจยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ จัดล่าฆ่าเชือดโดย “มงคลเมเจอร์” นำแสดงโดย อานุก วิสเซลล์, โยอันน์-คาร์ล วิสเซลล์ และ ฟร็องซัวร์ ซิมาร์ และนักแสดงผู้สวมบทยามสุดคลั่ง เทอร์ลอห์ คอนเวอรี (Belfast, ซีรีส์ Black Mirror) ซึ่งจัดฉายรอบพิเศษที่ มาบุญครอง และ เมเจอร์ รัชโยธิน พร้อมกัน

           หนังทำออกมาเป็นแนวไล่ล่า ที่ดูสร้างสมดุลให้กับการรู้จักทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ดูแล้วไม่ได้เน้นเชียร์ลุ้นฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นพิเศษ เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นผู้กระทำและถูกกระทำทั้งคู่ ถือว่าเนื้อเรื่อง บทภาพยนตร์แปลกดี มิหนำซ้ำยังรักษาสมดุลตรงนี้ได้ดีทีเดียวตลอดเรื่อง สำหรับฉากที่คอหนังชื่นชอบแนวล่าและถูกทำร้าย ในเรื่องจะตัดจบไม่ให้เห็นภาพที่รุนแรงเกินไป เพราะต้องการเน้นให้คนดูไปจินตนาการเอาเองว่าอยากได้เวอะวะแค่ไหน ซึ่งสร้างความรู้สึกรุนแรง บางครั้งได้มากกว่าเห็นภาพเสียอีกนะ ส่วนเรื่องใช้อาวุธ การแก้ไขปัญหา ดูเป็นธรรมดาสามัญชน คิดได้ดี ไม่มีเกินคาดเพราะเป็นปกติของมนุษย์ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้หาอาวุธคู่มือโดยหาเอาจากในนั้นเลย สำหรับนักแสดงทุกคนเล่นได้ตามบทบาท ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีเด่นชัดอะไรมาก สรุปว่าดูหนังเรื่องนี้เสมือนไปเดินในห้าง IKEA ได้บรรยากาศ อินไปด้วย แต่ไปเดินหนต่อไปอาจจินตนาการว่าจะมียามคลั่งอย่างในหนังมาไล่ฆ่าไหม? 

ติดให้ ** ครึ่ง

000

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back To Top